จำเลยรักฮุนฮาน
SF Hunhan : for my followers all 20K
Erotic fiction Rate - 18+
Hashtag #จำเลยรักฮุนฮาน
Hashtag #จำเลยรักฮุนฮาน
“นายจะบ้าเหรอออกไปเดี๋ยวนี้!”
ร่างสูงพยายามที่จะผลักไสคนตัวเล็กให้ออกไปจากบ้านของเขาซะ
เขาไม่อยากที่จะมีปัญหากับเซฮุนยิ่งได้รู้แล้วว่าผู้ชายคนนี้พยายามที่จะหนีเซฮุนน้องชายของเขามา
นั่นยิ่งทำให้ตัวเขาเองไม่อยากที่จะยุ่งกับคนๆนี้สักเท่าไหร่
คงไม่มีใครหรอกที่จะอยากหาเรื่องใส่ตัวเองแบบนี้
“ลู่หาน! ออกมาเดี๋ยวนี้”
ไม่ทันที่ไคจะได้ตอบตกลงช่วยเหลือลู่หาน
เสียงที่คุ้นหู ที่ลู่หานได้ยินมาตลอดเวลาที่อยู่ในบ้าน
ตอนนี้มันกำลังดังขึ้นอยู่ตรงหน้าบ้านนี่เอง
เสียงของเซฮุนทำให้ลู่หานหวาดกลัวจนต้องก้มลงไปเก็บเอากางเกงขึ้นมาใส่แล้วยืนตัวสั่นอยู่ภายในบ้าน
ซึ่งนั่นจึงเป็นเหตุให้ไคต้องตัดสินใจเปิดประตูออกไปเพื่อเผชิญหน้ากับน้องชายของเขา
เพื่อที่จะคุยให้มันจบๆกันไป เขาไม่อยากยุ่งวุ่นวายกับบ้านใหญ่สักเท่าไหร่
ทุกวันนี้สวนนี้ก็เงียบสงบดีอยู่แล้ว จนกระทั่งวันนี้
“จงอิน! ลู่หานอยู่ในนั้นใช่ไหม”
“อื้อ”
“นั่นมันคนของฉัน”
เซฮุนไม่รอช้า รีบสาวเท้าขึ้นไปบนบ้าน
แล้วรีบออกแรงดึงประตูบ้านของจงอินออกมาด้วยแรงที่เขามี
จนกระทั่งร่างบางที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังประตูบ้านนั้นโผล่ตัวออกมา
มือหนาก็รีบกระชากร่างบางเข้าหาตัวแล้วจ้องมองหน้าอีกคนไม่วางตา
ถ้าเขาไม่ลืมของจนต้องขับเรือกลับมากะทันหันแบบนี้
ป่านนี้นายคงจะหนีไปถึงไหนต่อไหนแล้วสินะ
“ปล่อยนะไอ้คนชั่ว!!!”
“ปล่อยเหรอ! เหอะ นายมันเป็นผู้ชายประเภทไหนกันนะทำไมชอบร่านไปหาผู้ชายคนอื่นนัก!
ผัวนายไม่อยู่แค่ไม่กี่ชั่วโมงแค่นี้ถึงกับทนไม่ไหวกันเลยเหรอ”
“เห้ยเซฮุน...
ใจเย็นฉันไม่ได้พิศวาสอะไรกับคนของนายเลยนะ”
เซฮุนนิ่งเงียบแล้วยอมฟังในสิ่งที่พี่ชายของตนนั้นพูดแทรกขึ้นมา
เซฮุนรู้นิสัยจงอินดีว่าไม่มีทางที่จะแย่งคนของเขาอยู่แล้ว ไม่เหมือนกับชานยอล
รายนั้นถ้าไม่ห้ามนั่นก็เท่ากับว่าอนุญาต ร้ายกว่าจงอินเป็นไหนๆ
แต่ที่เซฮุนต้องโมโหก็เพราะว่าลู่หานคิดจะหนี
โดยที่เขาเองก็กำชับแล้วว่าถ้าคิดที่จะหนี
ตัวเองจะเป็นยังไง
“กลับบ้าน!”
“ไม่ ปล่อยฉันนะ
ฉันจะกลับบ้านไอ้คนชั่ว! ฮืออ ไคนายช่วยฉันด้วยนะ”
“กลับไปเถอะ
ฉันช่วยอะไรนายไม่ได้จริงๆ”
สีหน้าที่ดูเรียบนิ่งของจงอิน
มันแทนคำตอบทุกอย่างว่าเขาไม่อาจที่จะช่วยเหลือร่างบางได้อีกต่อไป
ในเมื่อเขาไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้
ถึงแม้ว่าเรื่องที่เซฮุนเคยเกือบตายเพราะเรื่องธุรกิจมาแล้วนั้น
แต่ถึงยังไงจงอินก็ไม่ใช่พวกที่ฝังใจเจ็บ
แค่เซฮุนไม่ตายก็ถือว่าเป็นบุญของตระกูลเราแล้วที่ไม่ต้องเสียน้องชายคนเล็กไป
“ถ้าว่างแล้วฉันจะมาหา
ไปก่อนล่ะ”
เซฮุนมีธุระด่วนจริงๆ
ทำให้เลี่ยงไม่ได้เลยต้องรีบพาลู่หานกลับบ้านมาด้วย
ระหว่างทางร่างสูงก็ออกแรงกำมืออันหยาบกร้านเขากับเนื้อต้นแขนของลู่หานแล้วพาอีกคนลากเท้าเปล่าที่ไม่รู้ว่ารองเท้าแตะของตัวเองหลุดหายไปตอนไหน
มารู้อีกที เซฮุนก็ลากเขากลับมาที่บ้านหลังของเซฮุนแล้วจนได้
“เจอตัวจนได้นะ
ไปเจอมาจากไหนล่ะ ท่าเรือท้ายเกาะหรือว่า...”
พอมาถึงบ้าน
ชานยอลก็ยืนรอน้องชายของตัวเองอยู่แล้วโดยที่บนตัวของชานยอลนั้นสวมใส่เสื้อยืดโปโลคอปกสีขาวอยู่
กับกางเกงยีนส์สีเข้ม มีแว่นตาสีดำเกี่ยวเอาไว้ที่คอเสื้ออยู่
ส่วนข้างๆของเขาก็มีร่างบางอย่างแบคฮยอนที่กำลังยืนหน้าซีดเป็นไข่ต้มอยู่
เมื่อร่างสูงอย่างเซฮุนมองมาที่เขาเหมือนต้องการที่จะฆ่าให้ตายด้วยสายตายังไงอย่างนั้น
“อยู่ที่สวน”
“หือ งั้นก็คงจะได้เจอกับจงอินมันแล้วสิ”
“อื้ม ใช่! ถ้าฉันไปช้ากว่านี้
มีหวังคงได้ถวายตัวเป็นเมียมันแล้วแน่ๆ อย่าคิดว่าฉันจะอ่านใจนายไม่ออกนะลู่หาน!”
ในขณะที่กำลังก่นด่าร่างบางด้วยสารพัดคำพูดอยู่นั้น
สายตาคมที่ดูน่ากลัวก็เอาแต่จ้องหน้าร่างบางไม่วางตา มือก็ยังบีบที่ท่อนแขนเล็กเอาไว้แน่น
ตัวร่างบางเองก็เอาแต่บิดแขนไปมาเพื่อให้หลุดออกจากการเกาะกุมของอีกคน
แรงก็ไม่ใช่น้อยๆเลย
ยังจะมาใช้กำลังกับคนไม่มีทางสู้อย่างฉันอีก ป่าเถื่อนชะมัดยาด!
“นายก็อีกคนแบคฮยอน
เฝ้าประสาอะไร ทำไมให้หนีออกไปที่สวนได้!
นายนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆเลย”
“ฉันไม่รู้ว่าลู่หานจะกล้าหนีนี่
อีกอย่างนายท่านก็บอกกับทุกคนไว้แล้วว่าห้ามออกเรือถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากนายท่าน
ยังไงเสียลู่หานก็ไม่มีทางที่จะหนีไปจากเกาะนี้ได้แน่ๆ
นอกเสียจากว่าจะว่ายน้ำหนีไปเอง”
แบคฮยอนพยายามเอ่ยพูดให้เกิดประโยชน์มากที่สุดทั้งต่อตัวเอง
และก็ต่อตัวของลู่หานเองด้วย ร่างบางยังดีที่ยืนอยู่ข้างชานยอล
ไม่เช่นนั้นอาจจะโดนสายตาอาฆาตของเซฮุนร่วมด้วยแล้ว
แต่ก็ใช่ว่าการที่ร่างบางนั้นยืนอยู่ข้างๆชานยอลนั้นจะแปลว่าชานยอลจะเข้าข้างนะ
ไม่เลย เผลอๆถ้าแบคฮยอนเป็นคนผิด ชานยอลเนี่ยแหละจะเป็นฝ่ายที่ลงโทษแบคฮยอนเอง
เช่นที่ผ่านมา
ถ้าแบคฮยอนขัดคำสั่งชานยอลขึ้นมา
มีบ้างที่เคยโดนแช่น้ำทะเลเกือบค่อนคืนจนเป็นปอดบวมเกือบตาย
บ้างก็ให้นอนตากน้ำค้างอยู่ที่ชานบ้านบ้าง
ก็อย่างที่บอกว่าชานยอลไม่ใช่คนดีอะไร
แถมยังเลือดเย็นกว่าที่คิดด้วยซ้ำ
“แล้วจะเอายังไงกันต่อดีล่ะ
นี่ก็ใกล้เวลาที่เราจะต้องรีบเข้าเมืองกันแล้ว”
“ก็คงต้องขัง”
เซฮุนเปรยสายตาไปมองร่างบางที่ยืนอยู่ข้างๆเพียงเล็กน้อย
ก่อนที่จะลากตัวให้เดินขึ้นไปบนชานบ้านของเขาที่มีชานยอลกับแบคฮยอนยืนอยู่
เมื่อเดินมาจนถึงด้านบนได้ ลู่หานก็รีบสลัดตัวเองออกมาจากการถูกจับตัวเอาไว้แล้วรีบวิ่งเข้าไปกอดแบคฮยอนทันที
“ขับเอาไว้ทั้งสองคนนั่นแหละ
ทั้งลู่หานและก็แบคฮยอน เดี๋ยวให้พวกคนงานผู้ชายมันมาเฝ้า”
“นายท่านจะขังเราด้วยเหรอ”
แบคฮยอนแสดงสีหน้าที่ดูไม่สู้ดีกลับไปยังเซฮุนที่ยื่นคำขาดแล้วว่าจะขังแบคฮยอนไว้รวมกับลู่หานด้วย
“ไม่มีนาย
ลู่หานก็อ้อนวอนใครไม่ได้แล้ว ฉันจะออกไปทำธุระในเมืองไม่นาน
ไม่เกินพลบค่ำจะรีบกลับมา อยู่ในบ้านกันไปก่อน แล้วอย่าริอาจจะหนีไปไหนได้ ..
แบคฮยอน นายคงรู้นะว่าคนงานท้ายเกาะของฉันเป็นยังไง ถ้าหือเมื่อไหร่ นายไม่รอดแน่”
เซฮุนเอ่ยคำขู่เอาไว้เพียงเท่านั้น
ก่อนที่จะหันไปพยักหน้าเรียกให้ชานยอลรีบไปขึ้นเรือได้แล้ว
เพราะนี่ก็สายมากพอแล้วเดี๋ยวจะเสียการเสียงานเอา แต่ก็ไม่วายก่อนที่จะออกไป
เซฮุนกับชานยอลก็พาตัวลู่หานแล้วก็แบคฮยอนเข้ามาขังเอาไว้ในบ้านของเขาก่อน
พร้อมกับเอ่ยสั่งงานเอาไว้เสร็จสรรพ
แน่นอนว่าลู่หานไม่มีทางที่จะได้อยู่บ้านหลังนี้เฉยๆ
เพื่อรอเวลาที่เซฮุนจะกลับมาในช่วงเย็นแน่ๆ ถึงจะเป็นลูกคุณหนู
แต่ก็ใช่ว่าจะงอมืองอเท้าอยู่บ้านเฉยๆไปวันๆ เขาไม่ชอบ
“ชานยอล”
ก่อนที่ประตูจะปิดลง
แบคฮยอนพยายามส่งสายอ้อนวอนกลับไปให้คนรักของเขา แต่ชานยอลกลับไม่แยแสอะไรเลย
ทำได้แค่เพียงยกฝ่ามือหยาบกร้านขึ้นมาลูบแก้มเนียนเบาๆเป็นการปลอบใจว่าถึงยังไงแบคฮยอนก็ต้องอยู่ที่นี่
“อยากได้ผ้าสวยๆไหม
ฉันจะซื้อมาฝาก”
“ไม่อยากได้
ฉันขอแค่อย่างเดียวจะดูมากไปไหม”
ดวงตากลมกลึงช้อนขึ้นมองใบหน้าคมคายก่อนที่สายตาขี้อ้อนของแบคฮยอนจะถูกถ่ายทอดไปยังชานยอลที่ยืนตัวสูงกว่าอยู่ตรงหน้าของเขา
ชานยอลก้มลงมองหน้าของคนตัวเล็กด้วยแววตาเรียบนิ่ง
จ้องมองเพื่อรอฟังคำตอบจากอีกคน
“อย่าพาใครมาที่เกาะได้ไหมครับ...
แล้วก็คืนนี้ผมขอให้นายท่าน...กลับมานอนกับผมด้วยนะ ผมจะเตรียมน้ำอุ่นๆไว้รอท่าน”
“อื้อ ...
ไม่รับปากแต่จะพยายามก็แล้วกัน ไปเถอะเซฮุน”
ร่างสูงพยักหน้าแบบส่งๆไปให้แบคฮยอนผู้ที่เต็มไปด้วยความหวังและยึดมั่นในคำขอของตนเองที่มีต่อชานยอล
แบคฮยอนไม่รู้ว่าอีกคนจะทำตามที่เขาขอไหม แต่เขาไม่อยากให้ชานยอลมีใคร นอกจากเขา
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เด่นดังจนใครๆรู้ว่าเขาคือเมียของนายหัวชานยอล
แต่แบคฮยอนก็แค่อยากให้ชานยอลมีเขาเพียงหนึ่งเดียวในหัวใจก็พอ
“เดี๋ยวก่อน..ขอฉันสั่งงานกับเด็กดื้อก่อน”
เซฮุนขอเวลากับชานยอลเพียงไม่นาน
ร่างสูงเดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าลู่หานที่ยืนอยู่ข้างๆกับแบคฮยอน
ใบหน้าหวานเงยหน้ามองเซฮุนจ้องตาอีกคนเขม็ง
ผิดไปจากสายตาที่แบคฮยอนใช้มองชานยอลโดยสิ้นเชิง
ร่างบางพยายามจ้องมองเซฮุนอย่างเคียดแค้น ความเกลียดที่ส่งผ่านมานั้น
ยิ่งทำให้เซฮุนอยากจะบีบร่างเล็กให้แหลกคามือ แต่ก็ทำไม่ได้
“งานที่ฉันจะให้นายทำไม่มีอะไรมาก
ก็แค่แยกประเภทของเครื่องประดับลงในคอม ฉันเปิดตารางไว้ให้นายแล้ว อ่อ
แล้วก็ช่วยเช็คเอกสารให้ด้วยอันไหนที่ฉันยังไม่ได้เซ็นให้แยกเอาไว้ต่างหาก
แล้วฉันจะกลับมาเซ็นให้ ไม่ต้องห่วงนะ งานทุกงานแบคฮยอนจะสอนนายเอง”
“ฉันไม่รู้
ฉันทำไม่เป็น”
“เหอะ
จะเป็นเมียนายหัวของเกาะแห่งนี้ ถ้าทำงานพวกนี้ไม่เป็นนี่แย่เลยนะ”
ชานยอลเอ่ยแซวร่างบางทันที
“ฉันไม่ได้อยากจะเป็นสักหน่อย
ใครล่ะที่จับตัวฉันมา!”
“เอาล่ะ ฉันไม่มีเวลาแล้ว
แบคฮยอนดูแลด้วย อย่าหนีไปไหนอีกล่ะ
ถ้าไม่เช่นนั้นฉันจะบอกให้คนงานมันเข้ามาข่มขืนนายแน่!”
พูดจบเซฮุนกับชานยอลก็หมุนตัวเดินออกไปจากบ้านทันที
ในยามที่ประตูบ้านปิดลงพร้อมกับเสียงล็อคกุญแจอย่างแน่นหนา
นั่นยิ่งทำให้ร่างบางรู้สึกเหมือนนกตัวน้อยที่กำลังถูกจับขังเอาไว้ในกรง
พยายามหวีดเสียงร้องโวยวายดั่งนิสัยของคุณหนูเอาแต่ใจ
จนกระทั่งประโยคที่ไม่เข้าหูก็ดันดังลั่นไปจนเซฮุนที่กำลังจะเดินลงบันไดไปได้ยินเข้า
“ฉันจะยั่วคนงานที่นายสั่งให้มาเฝ้าฉัน
ฉันจะแก้ผ้าให้ทุกคนเอาฉันเลย นายจะได้ขายหน้าที่มีฉันเป็นเมีย! ฉันจะเอากับคนงานทุกคนเลยคอยดู!!”
เซฮุนหยุดเดินทันทีที่ได้ยินเสียงตะโกนลั่นออกมาจากภายในบ้าน
ชานยอลได้แต่หัวเราะเบาๆ แล้วหันไปมองหน้าน้องชายที่ยืนกำหมัดแน่นอยู่ตรงตีนบันได
ดูเหมือนว่าลู่หานจะยั่วโมโหได้สำเร็จแล้วสิ
“แล้วนายจะได้รับรู้
ว่าการไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันมันเป็นยังไงลู่หาน... “
“หึงเหรอวะ...ฉันว่าคุณหนูลู่หานที่นายจับตัวมานี่ดูท่าจะร้ายไม่เบา”
“รีบไปทำธุระกันเถอะ
... คืนนี้จะได้รีบมาจัดการเจ้าเด็กดื้อนี่ไวๆ ฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่”
“ติดใจเหรอ”
“นายมันไม่เคยลอง
ก็หุบปากไป”
เซฮุนแสยะยิ้มขึ้นมาตรงมุมปากก่อนที่จะรุดเดินนำหน้าชานยอลไปก่อน
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ชานยอลก็พอรู้แล้วว่าหลังจากนี้ไปชีวิตเซฮุนคงจะมีแต่ลู่หานแน่นอน
ตกเย็นวันนั้น แบคฮยอนกับลู่หานถูกจับให้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านของเซฮุนเพียงสองคน
โดยที่หน้าต่างก็ยังเปิดได้ตามปกติ แต่เมื่อลู่หานลองชะโงกหน้าออกไปดู
ก็เห็นเป็นชายฉกรรจ์หลายคนเดินไปเดินมารอบบ้านตลอดเวลา
น่าจะเป็นคนงานที่เซฮุนใช้ให้มาเฝ้าเขา
“นี่แบคฮยอน
คนงานพวกนี้น่ะ นอกจากตัวใหญ่แล้วยังมีอะไรที่น่ากลัวอีกเหรอ”
ลู่หานเดินเข้ามาหาแบคฮยอนที่กำลังนั่งเขียนงานอยู่ที่โต๊ะกระจกเตี้ยๆ
กลางห้องทำงานของเซฮุนที่เต็มไปด้วยเอกสารมากมาย
“คนพวกนี้น่ะเหรอ...
บางคนก็เพิ่งพ้นคดีมา พอออกจากคุกมาได้ก็ไม่มีงานทำก็เลยมาสมัครงานกับนายท่านจงอิน
แล้วนายท่านก็เลยรับหมด แต่ก็ให้ทำงานอยู่ที่ท้ายเกาะตลอด
ไม่ได้มาทำงานในส่วนของฟาร์มไข่มุกสักเท่าไหร่”
“โห
นี่นายหัวอะไรของนายนี่ท่าจะบ้านะ กล้ารับคนขี้คุกพวกนี้มาทำงานได้ยังไงกัน”
“อย่าว่าพวกเขาเลยลู่หาน
คนพวกนี้จริงๆแล้วก็น่าสงสารนะ พวกเขาไม่มีงานทำกันจริงๆ
จะไปทำงานที่ไหนเขาก็ไม่อยากได้ เพราะว่าไม่มีใครไว้ใจรับเข้าทำงาน
ก็มีแต่เกาะนี้เท่านั้นแหละที่ให้โอกาสคนเข้าทำงาน”
“งั้นพวกนี้ก็คนดีเหรอ”
ลู่หานไม่เข้าใจอยู่ดี ยังไงเสียเขาก็ยังอคติกับคนพวกนี้อยู่
“ไม่เชิงนะ
บ้างก็ต้องคดีข่มขืนมาไง ก็ไม่แปลกที่จะโดนใช้ให้มาเฝ้าพวกเราสองคน”
“อ้าว ...
ถ้าอย่างนี้พวกมันหน้ามืดบุกเข้ามาปล้ำเราสองคนล่ะ จะทำยังไง”
ลู่หานมีท่าทางที่ดูหวาดระแวง
พลันส่งสายตาที่ดูหวาดกลัวทุกครั้งที่ชะเง้อมองออกไปนอกหน้าต่าง
ถ้าหากต้องกลายเป็นเมียคนพวกนั้นนะ เขายอมตายดีกว่า ... หรือจะให้เขาเป็นเมียเซฮุนยังดีกว่าเยอะเลย
แต่เอ๊ะ....
มันก็ไม่ดีทั้งคู่นั่นแหละ นายนั่นก็ป่าเถื่อนพอกัน!
“ไม่หรอก
ถ้าพวกนั้นกล้าปล้ำนายนะ .. ตายลูกเดียว
เซฮุนคงเอาลูกซองยิงทิ้งแล้วฝังศพเอาไว้ที่ท้ายเกาะแน่ๆ”
“บ้าน่า...
นายนั่นอ่ะนะจะมาสนใจด้วยเหรอ ฉันจะไปมีอะไรกับใคร เขาคงไม่ใส่ใจนักหรอก
แค่มีฉันไว้ระบายอารมณ์เท่านั้น ก็เข้าใจอ่ะนะว่าอยู่บนเกาะผู้หญิงสวยๆมันน้อย
พอได้มาเจอผู้ชายน่ารักๆอย่างฉันก็เลยห้ามอารมณ์ไม่ได้เป็นธรรมดา
ช่างมันเถอะเรื่องเมื่อคืนก็ถือเสียว่าให้หมามันกินไป”
“ลู่หาน!...ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ...ไม่น่ารักเลย
นายท่านมาได้ยินจะโกรธเอานะ”
“ก็ช่างสิ คุณหนูผู้สูงศักดิ์อย่างฉัน
ไม่อยากจะลดตัวไปเกลือกกลั้วกับคนพรรค์นั้นนักหรอก”
“ลู่หานนายรู้ไหมว่าเซฮุนไม่ใช่คนธรรมดา”
“หือ ก็อิแค่เจ้าของ
จะไปมีอะไรดีเด่นกว่าฉัน”
ลู่หานยังคงทะนงตัวว่าตนนั้นดีที่สุด
ไม่มีใครหน้าไหนมาทัดเทียมได้อีกแล้ว เขาถือว่าพ่อตัวเองรวยนั่นคือที่สุด
จะเหยียบหัวใครก็ได้ ไม่แคร์อะไรทั้งนั้น
“เซฮุนมีทรัพย์สมบัติมากพอที่จะสร้างประเทศขึ้นมาได้เลยก็แล้วกัน”
“บ้าเหอะ ฉันไม่เชื่อ”
“จริงๆนะเพราะว่าฉันทำงานกับนายท่านมานานแล้ว
รู้หมดทุกอย่าง พวกบัญชีอะไรฉันก็รู้ เซฮุนน่ะรวยมากแต่เขาอยู่ในที่แบบนี้
ที่ๆไม่มีใครรู้ว่ามีอยู่นอกจากคนที่ทำธุรกิจด้วยกันถึงจะรู้
เพราะเซฮุนไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับเกาะของเขา”
“รวยที่นายว่า...แค่ไหน”
“สมบัติบ้านนายที่ว่ามีเยอะน่ะ
ก็แค่เศษเงินของเซฮุนเท่านั้นเอง”
“อ...อะไรนะ”
ร่างบางถึงกับหน้าเหวอไปในที่สุด
ในตอนที่แบคฮยอนเปิดโน๊ตบุ๊คตรงหน้าที่แสดงรายรับในแต่ละปีของเกาะแห่งนี้
แน่นอนว่ามูลค่าของมันแทบที่จะตีเป็นตัวเลขไม่ได้เลย
และก็คงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเงินถึงไหลสะพัดเข้ามาในเกาะแห่งนี้มากนัก
เพราะพี่น้องแต่ละคนที่อยู่บนเกาะนี้ต่างก็มีธุรกิจเป็นของตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นเซฮุนที่ทำฟาร์มมุกกับชานยอล จงอินที่ทำพวกสวนผลไม้
คริสก็มีธุรกิจอีกแขนงหนึ่ง ส่วนเทาก็ดูแลธุรกิจปลีกย่อยไปอีก
ห้าพี่น้องที่ช่วยกันทำมาหากิน ลำพังแค่เซฮุนคนเดียว เงินก็ไหลเข้ามามากพอแล้ว
แต่ถ้าคูณรายได้มหาศาลของพี่น้องแต่ละคนแล้วนั้น
ยากที่จะมีเศรษฐีคนไหนที่จะเทียบได้
โดยเฉพาะบ้านลู่หาน
เงินที่พ่อของลู่หานโกงไป มันก็เล็กน้อยสำหรับเซฮุนมาก แต่ขึ้นชื่อว่าโกง
ถ้าลองได้รู้ว่ามีคนจ้องที่จะหักหลังเขาขึ้นมา
แน่นอนว่าเซฮุนไม่มีทางปล่อยเอาไว้แน่
“แต่ทำไม นายนั่นต้องโหดร้ายกับฉันขนาดนั้นด้วย”
“นายควรชินนะ
แต่เอาเถอะ เรื่องความรู้สึกฉันตอบแทนเซฮุนไม่ได้หรอก ...
ฉันว่านายรีบทำงานก่อนเถอะ เดี๋ยวนายท่านมาแล้วไม่ได้งาน ต้องโดนโกรธแน่ๆ”
แบคฮยอนลุกขึ้นยืนแล้วจูงมือลู่หานให้เดินมายังโต๊ะทำงานของเซฮุน
ร่างบางดันร่างของลู่หานในนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานที่เซฮุนอนุญาตให้ลู่หานนั่งได้
ซึ่งตอนที่แบคฮยอนได้ยินก็ถึงกับไม่เชื่อกับหูว่าคนอย่างเซฮุนจะปล่อยให้ลู่หานมาวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของเขาได้ด้วยเหรอ
ขนาดเขาแค่เก็บของเซฮุนยังต้องอยู่เฝ้าตลอดเลย เซฮุนเคยไว้ใจใครที่ไหนกัน
“นายแค่ดูนะ ว่าไข่มุกเกรดนี้
ชื่อจะบอกตามนี้ นายก็พิมพ์มันลงไปในตารางนี้”
แบคฮยอนพยายามสอนงานลู่หานไปเรื่อยๆ
จนในที่สุดร่างบางก็เริ่มรู้งานแล้วอาสาทำเองต่อได้โดยที่แบคฮยอนไม่ต้องคุมงานอีก
ร่างบางทั้งสองเลยแยกกันทำงานของใครของมัน ตอนนี้ก็สองทุ่มเข้าไปแล้ว
เซฮุนกับชานยอลยังไม่กลับมาที่เกาะเลยสักคน
ดูท่าแล้วเห็นทีแบคฮยอนเลยทำใจว่าคืนนี้นายท่านทั้งสองน่าจะนอนค้างกันที่โรงแรมในเมืองก็เป็นแน่
และคืนนี้เขาก็ไม่ได้นอนกับชานยอลอีกเช่นเคย
“มันต้องมีสิ”
ทางด้านลู่หาน
ที่เอาแต่ง่วนอยู่กับงานตรงหน้า การพิมพ์ชื่อเครื่องประดับต่างๆลงไปในคอมมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณหนูอย่างเขาเลย
เพราะงานที่ว่านั่นมันเสร็จไปตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกที่แบคฮยอนปล่อยให้เขาทำเองแล้ว
ทำให้ตอนนี้ร่างบางเริ่มเบี่ยงความสนใจมาที่เรื่องอื่นแทนแล้ว
นั่นก็คือการหาเข้าอินเตอร์เน็ตเพื่อที่จะติดต่อกลับไปหาคนทางบ้านของเขา
“ให้ตายสิ!”
เสียงบ่นพึมพำของลู่หานนั้นทำให้แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมามองเป็นพักๆ
แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร
คงจะเป็นเพราะเกิดมาบนกองเงินกองทองก็เลยไม่เคยที่จะต้องมานั่งทำงานแบบนี้
แต่เปล่าเลย ลู่หากำลังเข้าอินเตอร์เน็ต แต่ทว่าการเชื่อมต่อกลับล้มเหลว
เซฮุนรู้ทันลู่หานโดยการที่เขาตัดเน็ตทุกอย่างในบ้านหลังนี้ชั่วคราว
เพราะรู้อยู่แล้วว่าคุณหนูอย่างลู่หานไม่ได้โง่
และการปล่อยให้ทำงานกับคอมแบบนี้แน่นอนลู่หานต้องคิดหาทางหนีแน่ๆ
กึก..
เสียงเหมือนกับการไขอะไรสักอย่างดังขึ้นที่ประตู
ในช่วงราวๆสามทุ่มกว่าๆ ทำให้ร่างบางทั้งสองต้องเงยหน้าไปมองที่บานประตูพร้อมๆกัน
ในที่สุดเมื่อยามที่บานประตูเปิดออก
ก็ปรากฎให้เห็นเป็นร่างสูงทั้งสองที่เดินทางกลับมาแล้ว
ลูกน้องที่ตามมาด้วยก็เดินหิ้วพวกถุงกระดาษมากมายมาวางเอาไว้บนโซฟา
ก่อนที่ร่างสูงอย่างเซฮุนจะเดินเข้าภายในบ้าน ถอดรองเท้าหนังไว้ตรงชั้นวางรองเท้าข้างประตู
ส่วนแบคฮยอนเองก็รีบวิ่งออกไปด้านหน้าบ้านทันที
เพื่อรอดูว่ามีชานยอลเดินมาด้วยรึเปล่า
เมื่อร่างบางเห็นว่าชานยอลกลับมาด้วย
ไม่รอช้า คนตัวเล็กก็รีบวิ่งเข้าไปสวมกอดร่างของผู้เป็นที่รักทันที
“ฉันเมื่อยตัวมาก
ไปนวดให้ฉันทีสิ”
“ได้ครับ
ขอผมเก็บของก่อนนะครับ”
สีหน้าและน้ำเสียงที่ดูดีใจจนออกนอกหน้าของแบคฮยอนแสดงออกมา
พร้อมกับร่างน้อยที่วิ่งกลับเข้ามาในบ้าน
เอ่ยปากลาลู่หานกับนายหัวเซฮุนพร้อมกับหอบแฟ้มงานเล็กๆน้อยๆขึ้นมาไว้แนบอก
ก่อนที่จะเดินออกจากบ้านไป เพื่อหวังที่จะรีบไปปรนนิบัตินายหัวของตนเองในค่ำคืนนี้
“งานไปถึงไหนแล้ว”
เมื่อประตูบ้านปิดลงหลังจากที่ลูกน้องที่ช่วยถือของเดินออกจากบ้านไป
เซฮุนก็จัดการถอดสูทสีดำที่ตนสวมใส่อยู่ทับเอาไว้ ด้านในเป็นเสื้อเชิ้ตสีดำลายจุด
กับกางเกงยีนส์เข้ารูป เซฮุนพาดเสื้อคลุมเอาไว้กับท่อนแขนของตนเอง
ก่อนที่จะสาวเท้าเดินเข้ามาหาร่างบางที่นั่งตีหน้านิ่งอยู่ที่หน้าคอมทันที
“เสร็จแล้ว”
“ไหนดูหน่อย
งานฉันพังรึเปล่า”
เซฮุนเดินอ้อมมาที่ด้านหลังเก้าอี้ทำงานของเขาที่มีร่างบางนั่งอยู่
มือหนาพาดเสื้อสูทตัวนอกของเขาเอาไว้ที่พนักพิงเก้าอี้ ก่อนที่สองแขนจะเท้าตัวคล่อมร่างบางเอาไว้
สายตาคมที่ดูนิ่งไปเหมือนคนที่จริงจังเวลาที่อยู่หน้างาน
ค่อยๆไล่สายตามองรายชื่อที่ลู่หานได้พิมพ์ลงไป ค่อยๆอ่านมันไปเรื่อยๆ
โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าตอนนี้คนตัวเล็กจะรู้สึกอึดอัดมากน้อยเพียงใดที่ต้องมาอยู่ภายใต้ร่างของเซฮุนแบบนี้
... ทำไมกัน ปากก็บอกว่าไม่ชอบ
แต่มันก็เหมือนมีอะไรบางอย่างที่ดึงดูดให้ลู่หานสนใจเซฮุนตลอดเวลา อะไรกันนะ
“อื้ม เก่งนี่”
“อยู่แล้ว”
ลู่หานโพร่งปากบอกไปอย่างไม่นึกที่จะถ่อมตัวใดใดทั้งสิ้น
“เหอะ...”
เซฮุนเหลือบสายตามองแก้มบางที่ดูกลมกลึงราวกับลูกซาลาเปาแล้วอยากจะส่งมือไปหยิกให้หายหมั่นเขี้ยวซะให้เข็ด
แต่ก็ไม่อยากทำ
ร่างสูงยันตัวเองขึ้นมาก่อนที่จะเดินไปที่โซฟาที่มีถุงกระดาษวางเรียงรายอยู่
ร่างสูงกวาดสายตามองของในถุงสักพักก่อนที่จะหยิบเอาถุงกระดาษสองสามใบขึ้นมา
แล้วเดินกลับมาหาลู่หานอีกครั้ง
“ฉันซื้อมาให้”
ร่างสูงยื่นถุงกระดาษไปให้ลู่หาน
ร่างบางยื่นมือมารับเอาไว้ก่อนที่จะเปิดปากถุงแต่ละใบออกดู
ในขณะที่ร่างสูงก็เขยิบตัวขึ้นไปนั่งบนโต๊ะทำงานตรงหน้าของลู่หานแล้ว
“เสื้อผ้า? ซื้อมาให้ฉันเหรอ”
“อื้อ
ไม่ได้ตั้งใจหรอก ก็แค่เดินผ่านๆ อีกอย่างนายก็ต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนาน
ควรที่จะมีเสื้อผ้าเป็นของตัวเองบ้าง”
“แล้วทำไมไม่ให้ฉันไปเลือกซื้อเอง
ถ้าไม่ถูกใจฉันขึ้นมา นายจะทำยังไง”
ถึงแม้ว่าภายในใจของลู่หานจะรู้สึกดีใจที่อีกคนยังหวังดีซื้อของพวกนี้มาให้
แต่มาดคุณหนูอย่างเขา ไม่มีทางหรอกที่จะยอมรับอะไรมาเป็นของตัวเองง่ายๆ
ก็ต้องมีเล่นตัวกันบ้าง
“ก็ไม่ต้องใส่
ฉันไม่ได้บังคับให้นายใส่เสื้อผ้าเวลาอยู่กับฉันสักหน่อย
อีกอย่างถ้านายอยากจะแก้ผ้าแล้วเดินล่อนจ้อนไปอ่อยพวกคนงานบนเกาะก็แล้วแต่นะ
อยากได้ผัวเพิ่มก็เรื่องของนาย”
“เหรอ? ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ ฉันมีผัวเพิ่มขึ้นมา นายจะทนไหวเหรอ..เซฮุน”
“ลู่หาน!”
ร่างสูงเหมือนโดนตอกหน้าเข้าเต็มๆ
แค่เพียงลู่หานแกล้งยั่วโมโหแค่นี้เซฮุนก็รู้สึกโกรธมากแล้ว
“ถ้านายไม่หลงเสน่ห์ฉันเข้าแล้ว
นายคงไม่ซื้อเสื้อผ้าแพงๆพวกนี้ให้ฉันใส่หรอก”
ลู่หานชูถุงกระดาษสี่ห้าถุงขึ้นมาอยู่ในระดับสายตาของตนเอง
ก่อนที่จะเหลือบไปมองชื่อยี่ห้อแต่ละถุงที่ประทับเอาไว้
ไม่มีแบรนด์ไหนเลยที่ลู่หานไม่รู้จัก นี่น่ะเหรอที่เซฮุนบอกว่าเดินผ่านๆไม่ได้ตั้งใจซื้อมา
แต่ละถุงนี่ไม่ต่ำกว่าพันนึงเลยนะ
“มันก็แค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ
ต่อจากนี้ไปนายจะต้องทำงานที่เกาะนี้ เยี่ยงคนงานในเกาะจำไว้”
“เหรอ
ฉันคงทำไม่ได้หรอกนะ ผิวพรรณของฉันมันสู้แดดไม่ไหวหรอก
อีกอย่างฉันก็อ่อนแอขนาดนี้นายไม่สงสารฉันเหรอเซฮุน”
ลู่หานพยายามงัดไม้ตายเช่นคำพูดแต่ละประโยคออกมาเพื่อหวังที่จะแกล้งเซฮุนซะให้เข็ด
โทษฐานที่เคยรังแกเขาเอาไว้มาก
อยากจะรู้จริงๆว่าการที่นายได้ตัวฉันไปตั้งครั้งนึง
นายจะไม่หวั่นไหวเลยอย่างนั้นเหรอ ก็คงไม่ใช่
นายรู้ไหมว่ามีผู้ชายมากหน้าหลายตาอยากที่จะได้ในตัวฉัน
ทุกคนล้วนแล้วแต่อยากที่จะได้ฉัน ...
เซฮุนนายพลาดแล้วที่เล่นกับคุณหนูผู้สูงส่งอย่างฉัน หึ
“ถ้าทำไม่ได้ก็อยู่แต่ในบ้าน
แล้วก็ทำงานพวกเอกสารไป”
“แต่ฉันยังเรียนไม่จบเลยนะ
งานพวกนี้ฉันไม่รู้เรื่องเลย นายจะให้ฉันมาเรียนรู้เองเหรอ
ฉันไม่อยากให้แบคฮยอนมาลำบากกับคนโง่ๆอย่างฉัน นายช่วยสอนฉันแทนได้ไหม หื้มม”
ลู่หานไม่ว่าเปล่า
ร่างบางลุกขึ้นยืนพร้อมกับเดินเข้ามาหาเซฮุนทันที มือน้อยๆค่อยๆไต่ไปเรื่อยๆ
จากต้นแขนของอีกคนเรื่อยขึ้นมาจนถึงปกเสื้อเชิ้ตสีดำที่เซฮุนกำลังใส่อยู่
“มารยาร้อยเล่มเกวียนอย่างนาย
อย่าคิดนะว่าจะมาหลอกฉันได้”
“อะไรกัน หื้มม
ฉันน่ะเหรอจะใช้มารยาเล่นงานนาย ตลกแล้วเซฮุน...
ฉันไร้เดียงสาขนาดนี้นายจะมองฉันเป็นคนใจร้ายได้ลงคอเหรอ
อย่าลืมสินายเป็นถึงนายหัวของฟาร์มไข่มุกแห่งนี้เลยนะ
นายคงไม่โง่ให้ฉันหลอกง่ายๆหรอกจริงไหม”
“............”
เซฮุนนิ่งเงียบ
สายตาคมค่อยๆก้มมองไปตามนิ้วเรียวที่ลู่หานค่อยๆไต่ละมาเรื่อยๆ
จนถึงกระดุมเม็ดแรกลู่หานก็ค่อยใช้ปลายนิ้วเขี่ยมันไปมาจนมันหลุดออกจากกัน
สักพักเซฮุนก็เริ่มรู้สึกได้ว่าตอนนี้ร่างของลู่หานกำลังเทน้ำหนักมาทางเขา
นั่นก็แปลว่าตอนนี้ร่างบางกำลังเบียดตัวเข้ามาหาเขาอยู่นั่นเอง
“ฉันจะให้นายเลือก
ระหว่างลงไปทำงานที่ต้องใช้แรงงาน กับทำงานอยู่ในบ้านหลังนี้ นายจะเลือกอะไร”
“อืมม...”
ร่างบางนิ่งคิดไปสักพัก
“ในบ้านหลังนี้ดีกว่า
นายจะให้ฉันทำอะไรล่ะ”
“ก็หน้าที่ทุกอย่างที่แบคฮยอนทำ
ทั้งกวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า จัดที่นอน ล้างห้องน้ำ...ทำทุกอย่างแทนแบคฮยอนให้หมด”
“แล้วถ้า..ทำงานใช้แรงงานล่ะ”
“ก็ต้องลงเรือไปกับพวกคนงาน
ไม่ก็ไปช่วยแม่ครัวอยู่ในครัวนู่น”
แน่นอนว่าเซฮุนไม่มีทางที่จะส่งลู่หานไปทำงานในสวนของจงอินแน่นอน
เขาไม่มีทางปล่อยให้ไปอยู่ในที่แบบนั้นแน่ๆ เพราะในบรรดาพี่น้องทุกคน
จงอินคือคนที่ไม่ชอบเรื่องพวกนี้มากที่สุด
เผลอๆวันดีคืนดีจงอินนั่นแหละที่จะเป็นคนพาลู่หานออกจากเกาะนี้ไป
“ไม่มีงานใช้แรงงานอย่างอื่นที่มันสบายกว่านี้แล้วเหรอ”
ลู่หานเผลอตัวหลุดน้ำเสียงที่ดูเอาแต่ใจออกไป
แต่เซฮุนก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับอารมณ์ของน้ำเสียงของลู่หานมากนัก
“มี”
“อะไรล่ะ”
“เป็นเมียฉันไง ได้ใช้แรงงานทุกคืนแน่”
“ห๊ะ...อ่า”
ลามกชะมัด!! ทำไมฉันต้องโดนไอ้คนโรคจิตอย่างนายลวนลามทางคำพูดตลอดเวลาแบบนี้ด้วย!
“แล้วถ้าอยากเป็นอย่างอื่น
นายจะให้ฉันได้ไหมเซฮุน”
“ลู่หาน... สิ่งที่นายทำอยู่ตอนนี้
ฉันไม่ได้โง่นะ”
เซฮุนรู้ว่าลู่หานอยากที่จะหลอกอะไรเขาสักอย่างให้เซฮุนตายใจ
ทั้งๆที่รู้แต่ร่างบางก็ยังแสร้งเล่นละครต่อ ได้ เซฮุนก็ทนดูละครจากลู่หานได้เหมือนกัน
“ฉันบอกไป นายคงไม่เชื่อ คิดไปคิดมานะ
นายจับตัวฉันมาอยู่ที่นี่มันก็ถูกของนาย เพราะพ่อฉันทำกับนายเอาไว้ปางตายเลยนี่
... จริงๆนายจะเอาฉันไปทำอะไรก็ได้ ...แต่สิ่งที่ฉันอยากได้ก็คือ”
“คือ?”
“ตำแหน่งนายหญิงของเกาะแห่งนี้”
“หืม?” เซฮุนไม่เชื่อกับหูตัวเอง
คนอย่างลู่หานน่ะเหรอที่จะอยากที่จะมาเป็นอะไรแบบนี้
“ฉันไม่อยากให้พวกคนงานมาครหาฉันว่าฉันเป็นแค่นางบำเรอ...นายไม่สงสารฉันเหรอ
ฉันเป็นคุณหนูจากตระกูลใหญ่เลยนะ...เซฮุน ฉันเนี่ยแหละ เหมาะสมกับนายที่สุดแล้ว”
เซฮุนได้แต่หัวเราะข้างในไม่ได้เปล่งเสียงออกไป
เซฮุนไม่ได้โง่เขารู้อยู่แล้วว่าลู่หานกำลังจะวางแผนอะไรสักอย่างอยู่ในใจ
และเขาก็รู้ด้วยว่าถ้าใช้ไม้นี้มาเล่นกับเขา มันก็อาจจะเป็นใบเบิกทางให้เซฮุนตายใจ
และไว้ใจลู่หาน ยอมปล่อยลู่หานไป
แต่อย่าลืมว่าลู่หานก็แค่งูเห่าตัวหนึ่ง
จะแว้งกัดเราเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ลูกศัตรูก็คือลูกศัตรูอยู่วันยังค่ำ
เขาไม่มีทางเชื่อในคำพูดของลู่หานเด็ดขาด และเซฮุนเนี่ยแหละ
จะทำให้ลู่หานรู้ซึ้งถึงคำว่านายหญิงของเกาะแห่งนี้
มันไม่ได้มาง่ายๆอย่างที่นายคิด
... นายจะต้องชดใช้ทุกอย่างด้วยร่างกาย
เช่นเดียวกัน
นายก็ต้องใช้ร่างกายของนาย ไต่เต้าขึ้นไปให้ถึงคำว่า ‘นายหญิงของเกาะชินจู’ แห่งนี้เช่นกัน
รวมโพสภาพนายหญิงของเกาะแห่งนี้ในแท็ก
#จำเลยรักฮุนฮาน
เลือกภาพลู่หานที่สวยและเลอค่าที่สุดมาพร้อมแคปชั่นหรือบทสนทนาฮุนฮานโดนๆ
ถ้าสวยปังจนพึงพอใจกับนายหัวเซฮุน
จะแถมให้อีกตอนเร็วๆนี้
…..To be continue….
ฝากอ่าน ฝากแท็กกันด้วยนะจ๊ะ ร๊ากกกกกกกกก
Hashtag #จำเลยรักฮุนฮาน
- HolinezZ -