วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2559

SF : จำเลยรักฮุนฮาน for followers 20K ( Chap IV )




จำเลยรักฮุนฮาน
SF Hunhan : for my followers all 20K
Erotic fiction Rate - 18+
Hashtag #จำเลยรักฮุนฮาน





“นายจะบ้าเหรอออกไปเดี๋ยวนี้!”

            ร่างสูงพยายามที่จะผลักไสคนตัวเล็กให้ออกไปจากบ้านของเขาซะ เขาไม่อยากที่จะมีปัญหากับเซฮุนยิ่งได้รู้แล้วว่าผู้ชายคนนี้พยายามที่จะหนีเซฮุนน้องชายของเขามา นั่นยิ่งทำให้ตัวเขาเองไม่อยากที่จะยุ่งกับคนๆนี้สักเท่าไหร่

            คงไม่มีใครหรอกที่จะอยากหาเรื่องใส่ตัวเองแบบนี้

“ลู่หาน! ออกมาเดี๋ยวนี้”

            ไม่ทันที่ไคจะได้ตอบตกลงช่วยเหลือลู่หาน เสียงที่คุ้นหู ที่ลู่หานได้ยินมาตลอดเวลาที่อยู่ในบ้าน ตอนนี้มันกำลังดังขึ้นอยู่ตรงหน้าบ้านนี่เอง เสียงของเซฮุนทำให้ลู่หานหวาดกลัวจนต้องก้มลงไปเก็บเอากางเกงขึ้นมาใส่แล้วยืนตัวสั่นอยู่ภายในบ้าน

            ซึ่งนั่นจึงเป็นเหตุให้ไคต้องตัดสินใจเปิดประตูออกไปเพื่อเผชิญหน้ากับน้องชายของเขา เพื่อที่จะคุยให้มันจบๆกันไป เขาไม่อยากยุ่งวุ่นวายกับบ้านใหญ่สักเท่าไหร่ ทุกวันนี้สวนนี้ก็เงียบสงบดีอยู่แล้ว จนกระทั่งวันนี้

“จงอิน! ลู่หานอยู่ในนั้นใช่ไหม”

“อื้อ”

“นั่นมันคนของฉัน

            เซฮุนไม่รอช้า รีบสาวเท้าขึ้นไปบนบ้าน แล้วรีบออกแรงดึงประตูบ้านของจงอินออกมาด้วยแรงที่เขามี จนกระทั่งร่างบางที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังประตูบ้านนั้นโผล่ตัวออกมา มือหนาก็รีบกระชากร่างบางเข้าหาตัวแล้วจ้องมองหน้าอีกคนไม่วางตา

            ถ้าเขาไม่ลืมของจนต้องขับเรือกลับมากะทันหันแบบนี้ ป่านนี้นายคงจะหนีไปถึงไหนต่อไหนแล้วสินะ

“ปล่อยนะไอ้คนชั่ว!!!”

ปล่อยเหรอ! เหอะ นายมันเป็นผู้ชายประเภทไหนกันนะทำไมชอบร่านไปหาผู้ชายคนอื่นนัก! ผัวนายไม่อยู่แค่ไม่กี่ชั่วโมงแค่นี้ถึงกับทนไม่ไหวกันเลยเหรอ”

“เห้ยเซฮุน... ใจเย็นฉันไม่ได้พิศวาสอะไรกับคนของนายเลยนะ”

            เซฮุนนิ่งเงียบแล้วยอมฟังในสิ่งที่พี่ชายของตนนั้นพูดแทรกขึ้นมา เซฮุนรู้นิสัยจงอินดีว่าไม่มีทางที่จะแย่งคนของเขาอยู่แล้ว ไม่เหมือนกับชานยอล รายนั้นถ้าไม่ห้ามนั่นก็เท่ากับว่าอนุญาต ร้ายกว่าจงอินเป็นไหนๆ แต่ที่เซฮุนต้องโมโหก็เพราะว่าลู่หานคิดจะหนี

            โดยที่เขาเองก็กำชับแล้วว่าถ้าคิดที่จะหนี ตัวเองจะเป็นยังไง

“กลับบ้าน!”

ไม่ ปล่อยฉันนะ ฉันจะกลับบ้านไอ้คนชั่ว! ฮืออ ไคนายช่วยฉันด้วยนะ”

“กลับไปเถอะ ฉันช่วยอะไรนายไม่ได้จริงๆ”

            สีหน้าที่ดูเรียบนิ่งของจงอิน มันแทนคำตอบทุกอย่างว่าเขาไม่อาจที่จะช่วยเหลือร่างบางได้อีกต่อไป ในเมื่อเขาไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าเรื่องที่เซฮุนเคยเกือบตายเพราะเรื่องธุรกิจมาแล้วนั้น แต่ถึงยังไงจงอินก็ไม่ใช่พวกที่ฝังใจเจ็บ

            แค่เซฮุนไม่ตายก็ถือว่าเป็นบุญของตระกูลเราแล้วที่ไม่ต้องเสียน้องชายคนเล็กไป

“ถ้าว่างแล้วฉันจะมาหา ไปก่อนล่ะ”

            เซฮุนมีธุระด่วนจริงๆ ทำให้เลี่ยงไม่ได้เลยต้องรีบพาลู่หานกลับบ้านมาด้วย ระหว่างทางร่างสูงก็ออกแรงกำมืออันหยาบกร้านเขากับเนื้อต้นแขนของลู่หานแล้วพาอีกคนลากเท้าเปล่าที่ไม่รู้ว่ารองเท้าแตะของตัวเองหลุดหายไปตอนไหน มารู้อีกที เซฮุนก็ลากเขากลับมาที่บ้านหลังของเซฮุนแล้วจนได้

“เจอตัวจนได้นะ ไปเจอมาจากไหนล่ะ ท่าเรือท้ายเกาะหรือว่า...”

            พอมาถึงบ้าน ชานยอลก็ยืนรอน้องชายของตัวเองอยู่แล้วโดยที่บนตัวของชานยอลนั้นสวมใส่เสื้อยืดโปโลคอปกสีขาวอยู่ กับกางเกงยีนส์สีเข้ม มีแว่นตาสีดำเกี่ยวเอาไว้ที่คอเสื้ออยู่ ส่วนข้างๆของเขาก็มีร่างบางอย่างแบคฮยอนที่กำลังยืนหน้าซีดเป็นไข่ต้มอยู่ เมื่อร่างสูงอย่างเซฮุนมองมาที่เขาเหมือนต้องการที่จะฆ่าให้ตายด้วยสายตายังไงอย่างนั้น

“อยู่ที่สวน”

“หือ งั้นก็คงจะได้เจอกับจงอินมันแล้วสิ”

“อื้ม ใช่! ถ้าฉันไปช้ากว่านี้ มีหวังคงได้ถวายตัวเป็นเมียมันแล้วแน่ๆ อย่าคิดว่าฉันจะอ่านใจนายไม่ออกนะลู่หาน!”

            ในขณะที่กำลังก่นด่าร่างบางด้วยสารพัดคำพูดอยู่นั้น สายตาคมที่ดูน่ากลัวก็เอาแต่จ้องหน้าร่างบางไม่วางตา มือก็ยังบีบที่ท่อนแขนเล็กเอาไว้แน่น ตัวร่างบางเองก็เอาแต่บิดแขนไปมาเพื่อให้หลุดออกจากการเกาะกุมของอีกคน

            แรงก็ไม่ใช่น้อยๆเลย ยังจะมาใช้กำลังกับคนไม่มีทางสู้อย่างฉันอีก ป่าเถื่อนชะมัดยาด!

นายก็อีกคนแบคฮยอน เฝ้าประสาอะไร ทำไมให้หนีออกไปที่สวนได้! นายนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆเลย”

“ฉันไม่รู้ว่าลู่หานจะกล้าหนีนี่ อีกอย่างนายท่านก็บอกกับทุกคนไว้แล้วว่าห้ามออกเรือถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากนายท่าน ยังไงเสียลู่หานก็ไม่มีทางที่จะหนีไปจากเกาะนี้ได้แน่ๆ นอกเสียจากว่าจะว่ายน้ำหนีไปเอง”

            แบคฮยอนพยายามเอ่ยพูดให้เกิดประโยชน์มากที่สุดทั้งต่อตัวเอง และก็ต่อตัวของลู่หานเองด้วย ร่างบางยังดีที่ยืนอยู่ข้างชานยอล ไม่เช่นนั้นอาจจะโดนสายตาอาฆาตของเซฮุนร่วมด้วยแล้ว

            แต่ก็ใช่ว่าการที่ร่างบางนั้นยืนอยู่ข้างๆชานยอลนั้นจะแปลว่าชานยอลจะเข้าข้างนะ ไม่เลย เผลอๆถ้าแบคฮยอนเป็นคนผิด ชานยอลเนี่ยแหละจะเป็นฝ่ายที่ลงโทษแบคฮยอนเอง

            เช่นที่ผ่านมา ถ้าแบคฮยอนขัดคำสั่งชานยอลขึ้นมา มีบ้างที่เคยโดนแช่น้ำทะเลเกือบค่อนคืนจนเป็นปอดบวมเกือบตาย บ้างก็ให้นอนตากน้ำค้างอยู่ที่ชานบ้านบ้าง

            ก็อย่างที่บอกว่าชานยอลไม่ใช่คนดีอะไร แถมยังเลือดเย็นกว่าที่คิดด้วยซ้ำ

“แล้วจะเอายังไงกันต่อดีล่ะ นี่ก็ใกล้เวลาที่เราจะต้องรีบเข้าเมืองกันแล้ว”

“ก็คงต้องขัง”

            เซฮุนเปรยสายตาไปมองร่างบางที่ยืนอยู่ข้างๆเพียงเล็กน้อย ก่อนที่จะลากตัวให้เดินขึ้นไปบนชานบ้านของเขาที่มีชานยอลกับแบคฮยอนยืนอยู่ เมื่อเดินมาจนถึงด้านบนได้ ลู่หานก็รีบสลัดตัวเองออกมาจากการถูกจับตัวเอาไว้แล้วรีบวิ่งเข้าไปกอดแบคฮยอนทันที

“ขับเอาไว้ทั้งสองคนนั่นแหละ ทั้งลู่หานและก็แบคฮยอน เดี๋ยวให้พวกคนงานผู้ชายมันมาเฝ้า”

“นายท่านจะขังเราด้วยเหรอ” แบคฮยอนแสดงสีหน้าที่ดูไม่สู้ดีกลับไปยังเซฮุนที่ยื่นคำขาดแล้วว่าจะขังแบคฮยอนไว้รวมกับลู่หานด้วย

“ไม่มีนาย ลู่หานก็อ้อนวอนใครไม่ได้แล้ว ฉันจะออกไปทำธุระในเมืองไม่นาน ไม่เกินพลบค่ำจะรีบกลับมา อยู่ในบ้านกันไปก่อน แล้วอย่าริอาจจะหนีไปไหนได้ .. แบคฮยอน นายคงรู้นะว่าคนงานท้ายเกาะของฉันเป็นยังไง ถ้าหือเมื่อไหร่ นายไม่รอดแน่”

            เซฮุนเอ่ยคำขู่เอาไว้เพียงเท่านั้น ก่อนที่จะหันไปพยักหน้าเรียกให้ชานยอลรีบไปขึ้นเรือได้แล้ว เพราะนี่ก็สายมากพอแล้วเดี๋ยวจะเสียการเสียงานเอา แต่ก็ไม่วายก่อนที่จะออกไป เซฮุนกับชานยอลก็พาตัวลู่หานแล้วก็แบคฮยอนเข้ามาขังเอาไว้ในบ้านของเขาก่อน พร้อมกับเอ่ยสั่งงานเอาไว้เสร็จสรรพ

            แน่นอนว่าลู่หานไม่มีทางที่จะได้อยู่บ้านหลังนี้เฉยๆ เพื่อรอเวลาที่เซฮุนจะกลับมาในช่วงเย็นแน่ๆ ถึงจะเป็นลูกคุณหนู แต่ก็ใช่ว่าจะงอมืองอเท้าอยู่บ้านเฉยๆไปวันๆ เขาไม่ชอบ

“ชานยอล”

            ก่อนที่ประตูจะปิดลง แบคฮยอนพยายามส่งสายอ้อนวอนกลับไปให้คนรักของเขา แต่ชานยอลกลับไม่แยแสอะไรเลย ทำได้แค่เพียงยกฝ่ามือหยาบกร้านขึ้นมาลูบแก้มเนียนเบาๆเป็นการปลอบใจว่าถึงยังไงแบคฮยอนก็ต้องอยู่ที่นี่

“อยากได้ผ้าสวยๆไหม ฉันจะซื้อมาฝาก”

“ไม่อยากได้ ฉันขอแค่อย่างเดียวจะดูมากไปไหม”

            ดวงตากลมกลึงช้อนขึ้นมองใบหน้าคมคายก่อนที่สายตาขี้อ้อนของแบคฮยอนจะถูกถ่ายทอดไปยังชานยอลที่ยืนตัวสูงกว่าอยู่ตรงหน้าของเขา

            ชานยอลก้มลงมองหน้าของคนตัวเล็กด้วยแววตาเรียบนิ่ง จ้องมองเพื่อรอฟังคำตอบจากอีกคน

“อย่าพาใครมาที่เกาะได้ไหมครับ... แล้วก็คืนนี้ผมขอให้นายท่าน...กลับมานอนกับผมด้วยนะ ผมจะเตรียมน้ำอุ่นๆไว้รอท่าน”

“อื้อ ... ไม่รับปากแต่จะพยายามก็แล้วกัน ไปเถอะเซฮุน”

            ร่างสูงพยักหน้าแบบส่งๆไปให้แบคฮยอนผู้ที่เต็มไปด้วยความหวังและยึดมั่นในคำขอของตนเองที่มีต่อชานยอล แบคฮยอนไม่รู้ว่าอีกคนจะทำตามที่เขาขอไหม แต่เขาไม่อยากให้ชานยอลมีใคร นอกจากเขา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เด่นดังจนใครๆรู้ว่าเขาคือเมียของนายหัวชานยอล แต่แบคฮยอนก็แค่อยากให้ชานยอลมีเขาเพียงหนึ่งเดียวในหัวใจก็พอ

“เดี๋ยวก่อน..ขอฉันสั่งงานกับเด็กดื้อก่อน”

            เซฮุนขอเวลากับชานยอลเพียงไม่นาน ร่างสูงเดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าลู่หานที่ยืนอยู่ข้างๆกับแบคฮยอน ใบหน้าหวานเงยหน้ามองเซฮุนจ้องตาอีกคนเขม็ง ผิดไปจากสายตาที่แบคฮยอนใช้มองชานยอลโดยสิ้นเชิง ร่างบางพยายามจ้องมองเซฮุนอย่างเคียดแค้น ความเกลียดที่ส่งผ่านมานั้น ยิ่งทำให้เซฮุนอยากจะบีบร่างเล็กให้แหลกคามือ แต่ก็ทำไม่ได้

“งานที่ฉันจะให้นายทำไม่มีอะไรมาก ก็แค่แยกประเภทของเครื่องประดับลงในคอม ฉันเปิดตารางไว้ให้นายแล้ว อ่อ แล้วก็ช่วยเช็คเอกสารให้ด้วยอันไหนที่ฉันยังไม่ได้เซ็นให้แยกเอาไว้ต่างหาก แล้วฉันจะกลับมาเซ็นให้ ไม่ต้องห่วงนะ งานทุกงานแบคฮยอนจะสอนนายเอง”

“ฉันไม่รู้ ฉันทำไม่เป็น”

“เหอะ จะเป็นเมียนายหัวของเกาะแห่งนี้ ถ้าทำงานพวกนี้ไม่เป็นนี่แย่เลยนะ” ชานยอลเอ่ยแซวร่างบางทันที

“ฉันไม่ได้อยากจะเป็นสักหน่อย ใครล่ะที่จับตัวฉันมา!”

เอาล่ะ ฉันไม่มีเวลาแล้ว แบคฮยอนดูแลด้วย อย่าหนีไปไหนอีกล่ะ ถ้าไม่เช่นนั้นฉันจะบอกให้คนงานมันเข้ามาข่มขืนนายแน่!”

            พูดจบเซฮุนกับชานยอลก็หมุนตัวเดินออกไปจากบ้านทันที ในยามที่ประตูบ้านปิดลงพร้อมกับเสียงล็อคกุญแจอย่างแน่นหนา นั่นยิ่งทำให้ร่างบางรู้สึกเหมือนนกตัวน้อยที่กำลังถูกจับขังเอาไว้ในกรง พยายามหวีดเสียงร้องโวยวายดั่งนิสัยของคุณหนูเอาแต่ใจ

            จนกระทั่งประโยคที่ไม่เข้าหูก็ดันดังลั่นไปจนเซฮุนที่กำลังจะเดินลงบันไดไปได้ยินเข้า

“ฉันจะยั่วคนงานที่นายสั่งให้มาเฝ้าฉัน ฉันจะแก้ผ้าให้ทุกคนเอาฉันเลย นายจะได้ขายหน้าที่มีฉันเป็นเมีย! ฉันจะเอากับคนงานทุกคนเลยคอยดู!!”

            เซฮุนหยุดเดินทันทีที่ได้ยินเสียงตะโกนลั่นออกมาจากภายในบ้าน ชานยอลได้แต่หัวเราะเบาๆ แล้วหันไปมองหน้าน้องชายที่ยืนกำหมัดแน่นอยู่ตรงตีนบันได ดูเหมือนว่าลู่หานจะยั่วโมโหได้สำเร็จแล้วสิ

“แล้วนายจะได้รับรู้ ว่าการไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันมันเป็นยังไงลู่หาน... “

“หึงเหรอวะ...ฉันว่าคุณหนูลู่หานที่นายจับตัวมานี่ดูท่าจะร้ายไม่เบา”

“รีบไปทำธุระกันเถอะ ... คืนนี้จะได้รีบมาจัดการเจ้าเด็กดื้อนี่ไวๆ ฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่”

“ติดใจเหรอ”

“นายมันไม่เคยลอง ก็หุบปากไป”

            เซฮุนแสยะยิ้มขึ้นมาตรงมุมปากก่อนที่จะรุดเดินนำหน้าชานยอลไปก่อน ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ชานยอลก็พอรู้แล้วว่าหลังจากนี้ไปชีวิตเซฮุนคงจะมีแต่ลู่หานแน่นอน


            ตกเย็นวันนั้น แบคฮยอนกับลู่หานถูกจับให้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านของเซฮุนเพียงสองคน โดยที่หน้าต่างก็ยังเปิดได้ตามปกติ แต่เมื่อลู่หานลองชะโงกหน้าออกไปดู ก็เห็นเป็นชายฉกรรจ์หลายคนเดินไปเดินมารอบบ้านตลอดเวลา น่าจะเป็นคนงานที่เซฮุนใช้ให้มาเฝ้าเขา

“นี่แบคฮยอน คนงานพวกนี้น่ะ นอกจากตัวใหญ่แล้วยังมีอะไรที่น่ากลัวอีกเหรอ”

            ลู่หานเดินเข้ามาหาแบคฮยอนที่กำลังนั่งเขียนงานอยู่ที่โต๊ะกระจกเตี้ยๆ กลางห้องทำงานของเซฮุนที่เต็มไปด้วยเอกสารมากมาย

“คนพวกนี้น่ะเหรอ... บางคนก็เพิ่งพ้นคดีมา พอออกจากคุกมาได้ก็ไม่มีงานทำก็เลยมาสมัครงานกับนายท่านจงอิน แล้วนายท่านก็เลยรับหมด แต่ก็ให้ทำงานอยู่ที่ท้ายเกาะตลอด ไม่ได้มาทำงานในส่วนของฟาร์มไข่มุกสักเท่าไหร่”

“โห นี่นายหัวอะไรของนายนี่ท่าจะบ้านะ กล้ารับคนขี้คุกพวกนี้มาทำงานได้ยังไงกัน”

“อย่าว่าพวกเขาเลยลู่หาน คนพวกนี้จริงๆแล้วก็น่าสงสารนะ พวกเขาไม่มีงานทำกันจริงๆ จะไปทำงานที่ไหนเขาก็ไม่อยากได้ เพราะว่าไม่มีใครไว้ใจรับเข้าทำงาน ก็มีแต่เกาะนี้เท่านั้นแหละที่ให้โอกาสคนเข้าทำงาน”

“งั้นพวกนี้ก็คนดีเหรอ” ลู่หานไม่เข้าใจอยู่ดี ยังไงเสียเขาก็ยังอคติกับคนพวกนี้อยู่

“ไม่เชิงนะ บ้างก็ต้องคดีข่มขืนมาไง ก็ไม่แปลกที่จะโดนใช้ให้มาเฝ้าพวกเราสองคน”

“อ้าว ... ถ้าอย่างนี้พวกมันหน้ามืดบุกเข้ามาปล้ำเราสองคนล่ะ จะทำยังไง”

            ลู่หานมีท่าทางที่ดูหวาดระแวง พลันส่งสายตาที่ดูหวาดกลัวทุกครั้งที่ชะเง้อมองออกไปนอกหน้าต่าง ถ้าหากต้องกลายเป็นเมียคนพวกนั้นนะ เขายอมตายดีกว่า ... หรือจะให้เขาเป็นเมียเซฮุนยังดีกว่าเยอะเลย

            แต่เอ๊ะ.... มันก็ไม่ดีทั้งคู่นั่นแหละ นายนั่นก็ป่าเถื่อนพอกัน!

ไม่หรอก ถ้าพวกนั้นกล้าปล้ำนายนะ .. ตายลูกเดียว เซฮุนคงเอาลูกซองยิงทิ้งแล้วฝังศพเอาไว้ที่ท้ายเกาะแน่ๆ”

“บ้าน่า... นายนั่นอ่ะนะจะมาสนใจด้วยเหรอ ฉันจะไปมีอะไรกับใคร เขาคงไม่ใส่ใจนักหรอก แค่มีฉันไว้ระบายอารมณ์เท่านั้น ก็เข้าใจอ่ะนะว่าอยู่บนเกาะผู้หญิงสวยๆมันน้อย พอได้มาเจอผู้ชายน่ารักๆอย่างฉันก็เลยห้ามอารมณ์ไม่ได้เป็นธรรมดา ช่างมันเถอะเรื่องเมื่อคืนก็ถือเสียว่าให้หมามันกินไป”

“ลู่หาน!...ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ...ไม่น่ารักเลย นายท่านมาได้ยินจะโกรธเอานะ”

“ก็ช่างสิ คุณหนูผู้สูงศักดิ์อย่างฉัน ไม่อยากจะลดตัวไปเกลือกกลั้วกับคนพรรค์นั้นนักหรอก”

“ลู่หานนายรู้ไหมว่าเซฮุนไม่ใช่คนธรรมดา”

“หือ ก็อิแค่เจ้าของ จะไปมีอะไรดีเด่นกว่าฉัน”

            ลู่หานยังคงทะนงตัวว่าตนนั้นดีที่สุด ไม่มีใครหน้าไหนมาทัดเทียมได้อีกแล้ว เขาถือว่าพ่อตัวเองรวยนั่นคือที่สุด จะเหยียบหัวใครก็ได้ ไม่แคร์อะไรทั้งนั้น

“เซฮุนมีทรัพย์สมบัติมากพอที่จะสร้างประเทศขึ้นมาได้เลยก็แล้วกัน”

“บ้าเหอะ ฉันไม่เชื่อ”

“จริงๆนะเพราะว่าฉันทำงานกับนายท่านมานานแล้ว รู้หมดทุกอย่าง พวกบัญชีอะไรฉันก็รู้ เซฮุนน่ะรวยมากแต่เขาอยู่ในที่แบบนี้ ที่ๆไม่มีใครรู้ว่ามีอยู่นอกจากคนที่ทำธุรกิจด้วยกันถึงจะรู้ เพราะเซฮุนไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับเกาะของเขา”

“รวยที่นายว่า...แค่ไหน”

“สมบัติบ้านนายที่ว่ามีเยอะน่ะ ก็แค่เศษเงินของเซฮุนเท่านั้นเอง”

“อ...อะไรนะ”

            ร่างบางถึงกับหน้าเหวอไปในที่สุด ในตอนที่แบคฮยอนเปิดโน๊ตบุ๊คตรงหน้าที่แสดงรายรับในแต่ละปีของเกาะแห่งนี้ แน่นอนว่ามูลค่าของมันแทบที่จะตีเป็นตัวเลขไม่ได้เลย

            และก็คงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเงินถึงไหลสะพัดเข้ามาในเกาะแห่งนี้มากนัก เพราะพี่น้องแต่ละคนที่อยู่บนเกาะนี้ต่างก็มีธุรกิจเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเซฮุนที่ทำฟาร์มมุกกับชานยอล จงอินที่ทำพวกสวนผลไม้ คริสก็มีธุรกิจอีกแขนงหนึ่ง ส่วนเทาก็ดูแลธุรกิจปลีกย่อยไปอีก ห้าพี่น้องที่ช่วยกันทำมาหากิน ลำพังแค่เซฮุนคนเดียว เงินก็ไหลเข้ามามากพอแล้ว

            แต่ถ้าคูณรายได้มหาศาลของพี่น้องแต่ละคนแล้วนั้น ยากที่จะมีเศรษฐีคนไหนที่จะเทียบได้

            โดยเฉพาะบ้านลู่หาน เงินที่พ่อของลู่หานโกงไป มันก็เล็กน้อยสำหรับเซฮุนมาก แต่ขึ้นชื่อว่าโกง ถ้าลองได้รู้ว่ามีคนจ้องที่จะหักหลังเขาขึ้นมา แน่นอนว่าเซฮุนไม่มีทางปล่อยเอาไว้แน่

“แต่ทำไม นายนั่นต้องโหดร้ายกับฉันขนาดนั้นด้วย”

“นายควรชินนะ แต่เอาเถอะ เรื่องความรู้สึกฉันตอบแทนเซฮุนไม่ได้หรอก ... ฉันว่านายรีบทำงานก่อนเถอะ เดี๋ยวนายท่านมาแล้วไม่ได้งาน ต้องโดนโกรธแน่ๆ”

            แบคฮยอนลุกขึ้นยืนแล้วจูงมือลู่หานให้เดินมายังโต๊ะทำงานของเซฮุน ร่างบางดันร่างของลู่หานในนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานที่เซฮุนอนุญาตให้ลู่หานนั่งได้ ซึ่งตอนที่แบคฮยอนได้ยินก็ถึงกับไม่เชื่อกับหูว่าคนอย่างเซฮุนจะปล่อยให้ลู่หานมาวุ่นวายกับโต๊ะทำงานของเขาได้ด้วยเหรอ ขนาดเขาแค่เก็บของเซฮุนยังต้องอยู่เฝ้าตลอดเลย เซฮุนเคยไว้ใจใครที่ไหนกัน

“นายแค่ดูนะ ว่าไข่มุกเกรดนี้ ชื่อจะบอกตามนี้ นายก็พิมพ์มันลงไปในตารางนี้”

            แบคฮยอนพยายามสอนงานลู่หานไปเรื่อยๆ จนในที่สุดร่างบางก็เริ่มรู้งานแล้วอาสาทำเองต่อได้โดยที่แบคฮยอนไม่ต้องคุมงานอีก ร่างบางทั้งสองเลยแยกกันทำงานของใครของมัน ตอนนี้ก็สองทุ่มเข้าไปแล้ว เซฮุนกับชานยอลยังไม่กลับมาที่เกาะเลยสักคน

            ดูท่าแล้วเห็นทีแบคฮยอนเลยทำใจว่าคืนนี้นายท่านทั้งสองน่าจะนอนค้างกันที่โรงแรมในเมืองก็เป็นแน่ และคืนนี้เขาก็ไม่ได้นอนกับชานยอลอีกเช่นเคย

“มันต้องมีสิ”

            ทางด้านลู่หาน ที่เอาแต่ง่วนอยู่กับงานตรงหน้า การพิมพ์ชื่อเครื่องประดับต่างๆลงไปในคอมมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณหนูอย่างเขาเลย เพราะงานที่ว่านั่นมันเสร็จไปตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกที่แบคฮยอนปล่อยให้เขาทำเองแล้ว

            ทำให้ตอนนี้ร่างบางเริ่มเบี่ยงความสนใจมาที่เรื่องอื่นแทนแล้ว

            นั่นก็คือการหาเข้าอินเตอร์เน็ตเพื่อที่จะติดต่อกลับไปหาคนทางบ้านของเขา

“ให้ตายสิ!”

            เสียงบ่นพึมพำของลู่หานนั้นทำให้แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมามองเป็นพักๆ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร คงจะเป็นเพราะเกิดมาบนกองเงินกองทองก็เลยไม่เคยที่จะต้องมานั่งทำงานแบบนี้ แต่เปล่าเลย ลู่หากำลังเข้าอินเตอร์เน็ต แต่ทว่าการเชื่อมต่อกลับล้มเหลว

            เซฮุนรู้ทันลู่หานโดยการที่เขาตัดเน็ตทุกอย่างในบ้านหลังนี้ชั่วคราว เพราะรู้อยู่แล้วว่าคุณหนูอย่างลู่หานไม่ได้โง่ และการปล่อยให้ทำงานกับคอมแบบนี้แน่นอนลู่หานต้องคิดหาทางหนีแน่ๆ


กึก..     
            เสียงเหมือนกับการไขอะไรสักอย่างดังขึ้นที่ประตู ในช่วงราวๆสามทุ่มกว่าๆ ทำให้ร่างบางทั้งสองต้องเงยหน้าไปมองที่บานประตูพร้อมๆกัน ในที่สุดเมื่อยามที่บานประตูเปิดออก ก็ปรากฎให้เห็นเป็นร่างสูงทั้งสองที่เดินทางกลับมาแล้ว

            ลูกน้องที่ตามมาด้วยก็เดินหิ้วพวกถุงกระดาษมากมายมาวางเอาไว้บนโซฟา ก่อนที่ร่างสูงอย่างเซฮุนจะเดินเข้าภายในบ้าน ถอดรองเท้าหนังไว้ตรงชั้นวางรองเท้าข้างประตู ส่วนแบคฮยอนเองก็รีบวิ่งออกไปด้านหน้าบ้านทันที เพื่อรอดูว่ามีชานยอลเดินมาด้วยรึเปล่า

            เมื่อร่างบางเห็นว่าชานยอลกลับมาด้วย ไม่รอช้า คนตัวเล็กก็รีบวิ่งเข้าไปสวมกอดร่างของผู้เป็นที่รักทันที

“ฉันเมื่อยตัวมาก ไปนวดให้ฉันทีสิ”

“ได้ครับ ขอผมเก็บของก่อนนะครับ”

            สีหน้าและน้ำเสียงที่ดูดีใจจนออกนอกหน้าของแบคฮยอนแสดงออกมา พร้อมกับร่างน้อยที่วิ่งกลับเข้ามาในบ้าน เอ่ยปากลาลู่หานกับนายหัวเซฮุนพร้อมกับหอบแฟ้มงานเล็กๆน้อยๆขึ้นมาไว้แนบอก ก่อนที่จะเดินออกจากบ้านไป เพื่อหวังที่จะรีบไปปรนนิบัตินายหัวของตนเองในค่ำคืนนี้

งานไปถึงไหนแล้ว”

            เมื่อประตูบ้านปิดลงหลังจากที่ลูกน้องที่ช่วยถือของเดินออกจากบ้านไป เซฮุนก็จัดการถอดสูทสีดำที่ตนสวมใส่อยู่ทับเอาไว้ ด้านในเป็นเสื้อเชิ้ตสีดำลายจุด กับกางเกงยีนส์เข้ารูป เซฮุนพาดเสื้อคลุมเอาไว้กับท่อนแขนของตนเอง ก่อนที่จะสาวเท้าเดินเข้ามาหาร่างบางที่นั่งตีหน้านิ่งอยู่ที่หน้าคอมทันที

“เสร็จแล้ว”

“ไหนดูหน่อย งานฉันพังรึเปล่า”

            เซฮุนเดินอ้อมมาที่ด้านหลังเก้าอี้ทำงานของเขาที่มีร่างบางนั่งอยู่ มือหนาพาดเสื้อสูทตัวนอกของเขาเอาไว้ที่พนักพิงเก้าอี้ ก่อนที่สองแขนจะเท้าตัวคล่อมร่างบางเอาไว้ สายตาคมที่ดูนิ่งไปเหมือนคนที่จริงจังเวลาที่อยู่หน้างาน ค่อยๆไล่สายตามองรายชื่อที่ลู่หานได้พิมพ์ลงไป ค่อยๆอ่านมันไปเรื่อยๆ

            โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าตอนนี้คนตัวเล็กจะรู้สึกอึดอัดมากน้อยเพียงใดที่ต้องมาอยู่ภายใต้ร่างของเซฮุนแบบนี้ ... ทำไมกัน ปากก็บอกว่าไม่ชอบ แต่มันก็เหมือนมีอะไรบางอย่างที่ดึงดูดให้ลู่หานสนใจเซฮุนตลอดเวลา อะไรกันนะ

“อื้ม เก่งนี่”

“อยู่แล้ว” ลู่หานโพร่งปากบอกไปอย่างไม่นึกที่จะถ่อมตัวใดใดทั้งสิ้น

“เหอะ...”

            เซฮุนเหลือบสายตามองแก้มบางที่ดูกลมกลึงราวกับลูกซาลาเปาแล้วอยากจะส่งมือไปหยิกให้หายหมั่นเขี้ยวซะให้เข็ด แต่ก็ไม่อยากทำ ร่างสูงยันตัวเองขึ้นมาก่อนที่จะเดินไปที่โซฟาที่มีถุงกระดาษวางเรียงรายอยู่ ร่างสูงกวาดสายตามองของในถุงสักพักก่อนที่จะหยิบเอาถุงกระดาษสองสามใบขึ้นมา แล้วเดินกลับมาหาลู่หานอีกครั้ง

“ฉันซื้อมาให้”

            ร่างสูงยื่นถุงกระดาษไปให้ลู่หาน ร่างบางยื่นมือมารับเอาไว้ก่อนที่จะเปิดปากถุงแต่ละใบออกดู ในขณะที่ร่างสูงก็เขยิบตัวขึ้นไปนั่งบนโต๊ะทำงานตรงหน้าของลู่หานแล้ว

“เสื้อผ้า? ซื้อมาให้ฉันเหรอ”

“อื้อ ไม่ได้ตั้งใจหรอก ก็แค่เดินผ่านๆ อีกอย่างนายก็ต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนาน ควรที่จะมีเสื้อผ้าเป็นของตัวเองบ้าง”

“แล้วทำไมไม่ให้ฉันไปเลือกซื้อเอง ถ้าไม่ถูกใจฉันขึ้นมา นายจะทำยังไง”

            ถึงแม้ว่าภายในใจของลู่หานจะรู้สึกดีใจที่อีกคนยังหวังดีซื้อของพวกนี้มาให้ แต่มาดคุณหนูอย่างเขา ไม่มีทางหรอกที่จะยอมรับอะไรมาเป็นของตัวเองง่ายๆ ก็ต้องมีเล่นตัวกันบ้าง

“ก็ไม่ต้องใส่ ฉันไม่ได้บังคับให้นายใส่เสื้อผ้าเวลาอยู่กับฉันสักหน่อย อีกอย่างถ้านายอยากจะแก้ผ้าแล้วเดินล่อนจ้อนไปอ่อยพวกคนงานบนเกาะก็แล้วแต่นะ อยากได้ผัวเพิ่มก็เรื่องของนาย”

“เหรอ? ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ ฉันมีผัวเพิ่มขึ้นมา นายจะทนไหวเหรอ..เซฮุน”

“ลู่หาน!”

            ร่างสูงเหมือนโดนตอกหน้าเข้าเต็มๆ แค่เพียงลู่หานแกล้งยั่วโมโหแค่นี้เซฮุนก็รู้สึกโกรธมากแล้ว

“ถ้านายไม่หลงเสน่ห์ฉันเข้าแล้ว นายคงไม่ซื้อเสื้อผ้าแพงๆพวกนี้ให้ฉันใส่หรอก”

            ลู่หานชูถุงกระดาษสี่ห้าถุงขึ้นมาอยู่ในระดับสายตาของตนเอง ก่อนที่จะเหลือบไปมองชื่อยี่ห้อแต่ละถุงที่ประทับเอาไว้ ไม่มีแบรนด์ไหนเลยที่ลู่หานไม่รู้จัก นี่น่ะเหรอที่เซฮุนบอกว่าเดินผ่านๆไม่ได้ตั้งใจซื้อมา แต่ละถุงนี่ไม่ต่ำกว่าพันนึงเลยนะ

“มันก็แค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ ต่อจากนี้ไปนายจะต้องทำงานที่เกาะนี้ เยี่ยงคนงานในเกาะจำไว้”

“เหรอ ฉันคงทำไม่ได้หรอกนะ ผิวพรรณของฉันมันสู้แดดไม่ไหวหรอก อีกอย่างฉันก็อ่อนแอขนาดนี้นายไม่สงสารฉันเหรอเซฮุน” ลู่หานพยายามงัดไม้ตายเช่นคำพูดแต่ละประโยคออกมาเพื่อหวังที่จะแกล้งเซฮุนซะให้เข็ด โทษฐานที่เคยรังแกเขาเอาไว้มาก

            อยากจะรู้จริงๆว่าการที่นายได้ตัวฉันไปตั้งครั้งนึง นายจะไม่หวั่นไหวเลยอย่างนั้นเหรอ ก็คงไม่ใช่ นายรู้ไหมว่ามีผู้ชายมากหน้าหลายตาอยากที่จะได้ในตัวฉัน ทุกคนล้วนแล้วแต่อยากที่จะได้ฉัน ... เซฮุนนายพลาดแล้วที่เล่นกับคุณหนูผู้สูงส่งอย่างฉัน หึ

“ถ้าทำไม่ได้ก็อยู่แต่ในบ้าน แล้วก็ทำงานพวกเอกสารไป”

“แต่ฉันยังเรียนไม่จบเลยนะ งานพวกนี้ฉันไม่รู้เรื่องเลย นายจะให้ฉันมาเรียนรู้เองเหรอ ฉันไม่อยากให้แบคฮยอนมาลำบากกับคนโง่ๆอย่างฉัน นายช่วยสอนฉันแทนได้ไหม หื้มม”

            ลู่หานไม่ว่าเปล่า ร่างบางลุกขึ้นยืนพร้อมกับเดินเข้ามาหาเซฮุนทันที มือน้อยๆค่อยๆไต่ไปเรื่อยๆ จากต้นแขนของอีกคนเรื่อยขึ้นมาจนถึงปกเสื้อเชิ้ตสีดำที่เซฮุนกำลังใส่อยู่

“มารยาร้อยเล่มเกวียนอย่างนาย อย่าคิดนะว่าจะมาหลอกฉันได้”

“อะไรกัน หื้มม ฉันน่ะเหรอจะใช้มารยาเล่นงานนาย ตลกแล้วเซฮุน... ฉันไร้เดียงสาขนาดนี้นายจะมองฉันเป็นคนใจร้ายได้ลงคอเหรอ อย่าลืมสินายเป็นถึงนายหัวของฟาร์มไข่มุกแห่งนี้เลยนะ นายคงไม่โง่ให้ฉันหลอกง่ายๆหรอกจริงไหม”

“............” เซฮุนนิ่งเงียบ

            สายตาคมค่อยๆก้มมองไปตามนิ้วเรียวที่ลู่หานค่อยๆไต่ละมาเรื่อยๆ จนถึงกระดุมเม็ดแรกลู่หานก็ค่อยใช้ปลายนิ้วเขี่ยมันไปมาจนมันหลุดออกจากกัน สักพักเซฮุนก็เริ่มรู้สึกได้ว่าตอนนี้ร่างของลู่หานกำลังเทน้ำหนักมาทางเขา นั่นก็แปลว่าตอนนี้ร่างบางกำลังเบียดตัวเข้ามาหาเขาอยู่นั่นเอง

“ฉันจะให้นายเลือก ระหว่างลงไปทำงานที่ต้องใช้แรงงาน กับทำงานอยู่ในบ้านหลังนี้ นายจะเลือกอะไร”

“อืมม...” ร่างบางนิ่งคิดไปสักพัก

ในบ้านหลังนี้ดีกว่า นายจะให้ฉันทำอะไรล่ะ”

“ก็หน้าที่ทุกอย่างที่แบคฮยอนทำ ทั้งกวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า จัดที่นอน ล้างห้องน้ำ...ทำทุกอย่างแทนแบคฮยอนให้หมด”

“แล้วถ้า..ทำงานใช้แรงงานล่ะ”

“ก็ต้องลงเรือไปกับพวกคนงาน ไม่ก็ไปช่วยแม่ครัวอยู่ในครัวนู่น”

            แน่นอนว่าเซฮุนไม่มีทางที่จะส่งลู่หานไปทำงานในสวนของจงอินแน่นอน เขาไม่มีทางปล่อยให้ไปอยู่ในที่แบบนั้นแน่ๆ เพราะในบรรดาพี่น้องทุกคน จงอินคือคนที่ไม่ชอบเรื่องพวกนี้มากที่สุด เผลอๆวันดีคืนดีจงอินนั่นแหละที่จะเป็นคนพาลู่หานออกจากเกาะนี้ไป

“ไม่มีงานใช้แรงงานอย่างอื่นที่มันสบายกว่านี้แล้วเหรอ”

            ลู่หานเผลอตัวหลุดน้ำเสียงที่ดูเอาแต่ใจออกไป แต่เซฮุนก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับอารมณ์ของน้ำเสียงของลู่หานมากนัก 

“มี”

“อะไรล่ะ”

เป็นเมียฉันไง ได้ใช้แรงงานทุกคืนแน่

“ห๊ะ...อ่า”

            ลามกชะมัด!! ทำไมฉันต้องโดนไอ้คนโรคจิตอย่างนายลวนลามทางคำพูดตลอดเวลาแบบนี้ด้วย!

แล้วถ้าอยากเป็นอย่างอื่น นายจะให้ฉันได้ไหมเซฮุน”

“ลู่หาน... สิ่งที่นายทำอยู่ตอนนี้ ฉันไม่ได้โง่นะ”

            เซฮุนรู้ว่าลู่หานอยากที่จะหลอกอะไรเขาสักอย่างให้เซฮุนตายใจ ทั้งๆที่รู้แต่ร่างบางก็ยังแสร้งเล่นละครต่อ ได้ เซฮุนก็ทนดูละครจากลู่หานได้เหมือนกัน

“ฉันบอกไป นายคงไม่เชื่อ คิดไปคิดมานะ นายจับตัวฉันมาอยู่ที่นี่มันก็ถูกของนาย เพราะพ่อฉันทำกับนายเอาไว้ปางตายเลยนี่ ... จริงๆนายจะเอาฉันไปทำอะไรก็ได้ ...แต่สิ่งที่ฉันอยากได้ก็คือ”

“คือ?”

ตำแหน่งนายหญิงของเกาะแห่งนี้

“หืม?” เซฮุนไม่เชื่อกับหูตัวเอง คนอย่างลู่หานน่ะเหรอที่จะอยากที่จะมาเป็นอะไรแบบนี้

“ฉันไม่อยากให้พวกคนงานมาครหาฉันว่าฉันเป็นแค่นางบำเรอ...นายไม่สงสารฉันเหรอ ฉันเป็นคุณหนูจากตระกูลใหญ่เลยนะ...เซฮุน ฉันเนี่ยแหละ เหมาะสมกับนายที่สุดแล้ว”

            เซฮุนได้แต่หัวเราะข้างในไม่ได้เปล่งเสียงออกไป เซฮุนไม่ได้โง่เขารู้อยู่แล้วว่าลู่หานกำลังจะวางแผนอะไรสักอย่างอยู่ในใจ และเขาก็รู้ด้วยว่าถ้าใช้ไม้นี้มาเล่นกับเขา มันก็อาจจะเป็นใบเบิกทางให้เซฮุนตายใจ และไว้ใจลู่หาน ยอมปล่อยลู่หานไป

            แต่อย่าลืมว่าลู่หานก็แค่งูเห่าตัวหนึ่ง จะแว้งกัดเราเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ลูกศัตรูก็คือลูกศัตรูอยู่วันยังค่ำ เขาไม่มีทางเชื่อในคำพูดของลู่หานเด็ดขาด และเซฮุนเนี่ยแหละ จะทำให้ลู่หานรู้ซึ้งถึงคำว่านายหญิงของเกาะแห่งนี้

            มันไม่ได้มาง่ายๆอย่างที่นายคิด ... นายจะต้องชดใช้ทุกอย่างด้วยร่างกาย

            เช่นเดียวกัน นายก็ต้องใช้ร่างกายของนาย ไต่เต้าขึ้นไปให้ถึงคำว่า นายหญิงของเกาะชินจู แห่งนี้เช่นกัน 






รวมโพสภาพนายหญิงของเกาะแห่งนี้ในแท็ก #จำเลยรักฮุนฮาน
เลือกภาพลู่หานที่สวยและเลอค่าที่สุดมาพร้อมแคปชั่นหรือบทสนทนาฮุนฮานโดนๆ
ถ้าสวยปังจนพึงพอใจกับนายหัวเซฮุน จะแถมให้อีกตอนเร็วๆนี้ 

…..To be continue….


ฝากอ่าน ฝากแท็กกันด้วยนะจ๊ะ ร๊ากกกกกกกกก 



Hashtag #จำเลยรักฮุนฮาน

- HolinezZ -